{loadposition articletv}
ความเป็นมาการทำจมูก บ้านเราเป็นคนเอเชีย จมูกมักจะแบนราบ แต่ด้วยวิวัฒนาการเริ่มมาจากประเทศญี่ปุ่นในสงครามโลก ที่ญี่ปุ่นถูกทำลายเยอะในสงคราม จึงทำให้เกิดความผิดปกติของใบหน้า โดยเฉพาะที่จมูกจะแหว่งไป หรือว่าแบนไป จึงต้องหาวัสดุที่มาชดเชยกับสิ่งที่หายไปของจมูก เค้าก็มีวัสดุจำพวกซิลิโคนที่เป็นแผ่น เอามาเหล่าแล้วก็ทำการเสริมจมูก
ปัจจุบันสถานเสริมความงาม หรือเรียกว่า “Cosmetics” คนเอเชียรต้องการจมูกโด่ง แต่แตกต่างจากชาวยุโรปชอบจมูกที่แบน การผ่าตัดก็จะแตกต่างกัน การทำศัลยกรรมบ้านเราจะถนัดในการทำจมูกที่แบนกลับให้สูงขึ้ง ได้ตามความต้องการ
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูกมีหลายชนิด จำแนกง่าย ๆ คือ
1. วัสดุสังเคราะห์(Synthetic prosthesis)
เช่น ซิลิโคนแท่ง (Silicone) ที่ใช้ในวงการแพทย์(Medical grade) เพราะจะมีปฏิกิริยาต่อร่างกายมนุษย์น้อยมาก เหมือนกระดูกอ่อนของจมูก ซึ่งทำให้ร่างกายสามารถรับและห่อหุ้มแท่ง ซิลิโคนให้ยึดอยู่กับเนื้อยื้อได้ดี ดูและเป็นธรรมชาติ บิดงอได้ แล่นกีฬาได้
2. กระดูกและกระดูกอ่อนหลังหู กระดูกอ่อนสะโพก กระดูกตรงซีกโครง ใช้กับผู้แพ้ซิลิโคน นำมาใช้ในการเสริมจมูก
3. ผิวหนังและไขมัน โดยส่วนมากจะใช้ผิวหนังบริเวณ ขาหนีบ หรือหน้าท้อง นำมาใช้ในการเสริมจมูก
ส่วนมากแพทย์จะเลือกใช้ซิลิโคนแท่งในการผ่าตัดเสริมจมูก ทีนี้ถ้าคุณต้องการที่จะเสริมจมูกให้โด่งสวย คุณต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน และทราบว่า การผ่าตัดเสริมจมูกนั้นมีความสำคัญมาก เพราะจมูกเป็นโครงการ้างที่อยู่บนส่วนกลางของใบหน้า ดังนั้นควรพิจารณาควบคู่ไปกับโครงสร้างอื่น ๆ เช่น คิ้ว หน้าผาก ตา แก้ม และริมฝีปากด้วย ซึ่งโครงสร้างอื่น ๆ จะมีส่วนในการกำหนดความสูง ความกว้างของตัวจมูก และปลายจมูกด้วย
วิธีการดูแลหลังการเสริมจมูก คือ
1. ประคบผ้าเย็นประมาณ 24 – 48 ชม. หลังจากนั้นถ้ามีรอยฟกช้ำให้ใช้น้ำอุ่น
2. นอนศีรษะสูง หนุนหมอนประมาณ 2-3 ใบ
3. จมูกจะบวมประมาณ 2 – 3 วัน ในวันที่ 4 ก็จะเริ่มยุบ
4. ทานอาหารตามปกติ ยกเว้นอาหารรถจัด ให้งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และบุหรี่ในช่วง 2 อาทิตย์แรก
5. ให้มาพบแพทย์หลังการผ่าตัดประมาณ 1 – 2 อาทิตย์ ตามที่แพทย์นัด
เพราะต้องรอเวลาเพื่อให้แท่ง ซิลิโคนถูกเนื้อจมูกห่อหุ้มให้แน่นมาก ๆ ก่อน (ประมาณ 1 – 3 เดือน) จึงจะสามรถทนแรงกระทบได้มา และคุณสามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติพร้อมกับมีจมูกที่โด่งส่วยอีกด้วย
